เจอมาจากกระทู้ในฟ้าเดียวกัน ได้ใจความดี ขออนุญาตคัดมาลง
ตอบแบบพันธมิตร: เนื่องจาก "ประชาชน" ในระอบ "ประชาธิปไตย" ของพันธมิตรไม่นับรวมพวกคนรากหญ้า เพราะคนเหล่านี้ดีแต่รับเงินแล้วไปเลือกตั้ง เป็นพวกขี้เกียจรอรับเงินอย่างเดียว แย่งความมั่งคั่งจากคนเมืองและชนชั้นกลางผ่านภาษีที่ชนชั้นกลางต้องจ่ายเอา ไปลงชนบท
ดังนั้นชนชั้นกลาง ชนชั้นนำ ทหาร นักวิชาการ "คนดีมีศีลธรรม" และพวกรอยัลลิสต์เท่านั้นที่เป็น "ประชาชน" เพราะพิทักษ์ "ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์" สมกับที่เป็นประชาชนในระบอบประชาธิปไตยแบบไทยๆ(แน่นอนว่าอันมีพระมหา กษัตริย์ทรงเป็นประมุข)
จึงต้องทำให้การเมืองเป็น "ประชาธิปไตย" หรือ "การปกครองโดย "ประชาชน" อย่างแท้จริง
ด้วย การให้กลุ่มคนที่เป็นชนชั้นกลาง ชนชั้นนำ นักวิชาการ ทหาร "คนดีมีศีลธรรม" และพวกรอยัลลิสต์ ได้สิทธิในการปกครองประเทศโดยตรง และลดพื้นที่ๆ ชาวรากหญ้าจะได้สิทธิลงด้วยการทำให้พื้นที 50% ในพื้นที่ทางการเมืองของรัฐ เป็นของชนชั้นนำเหล่านี้ และอีก 50% รากหญ้าเลือกแบบเดิม
ด้วยระบบเช่นนี้แล้ว "ประชาชน" จะได้เป็นเจ้าของประเทศอย่างแท้จริง เพราะเมื่อก่อนที่ผ่านมา "ประชาชน" ไม่เคยชนะนักการเมืองโดยตรงได้เลย เลยต้องเล่นวิธีการ shortcut แบบง่ายๆ สะดวกดี
ตอบแบบผมมั่ง: การเมืองของชนชั้นนำดีๆ นั่นล่ะครับ ประเภทว่ามักง่าย อยากให้พวกตนได้มีอำนาจรัฐและอิทธิพลในการกำหนดนโยบายของรัฐบ้าง แต่ไม่เคยชนะนักการเมืองได้เลย แค้นเหลือหลาย คนส่วนมากเขาไม่เอาด้วยก็เจ็บใจ อ้างนู่นอ้างนี่ว่าเขาถูกซื้อเหมือนไม่มีสมองเลยทั้งๆ ที่มนุษย์โลกคิดเป็นเหมือนกันหมด ด่าว่าชนชั้นรากหญ้าเหมือนหมูเหมือนหมา ทั้งๆ ที่ความจริงแล้วชนชั้นรากหญ้าเสียภาษีมากกว่าใครๆ ในประเทศนี้ แถมความมั่งคั่งที่ผลิตมาจากชนชั้นรากหญ้าทั้งในเมืองและในชนบทนั่นล่ะ ที่พวกชนชั้นกลางและคนเมืองเอาไปสำเริงสำราญกันในรูปแบบผลผลิตส่วนเกิน แทนที่จะสำนึกบุญคุณกลับต่อว่าเสียไม่มีดีและกีดกันพวกนี้ออกจากความเป็น "ประชาชน"
แต่ไอ้ครั้นจะลงพื้นที่ทางการเมือง ตั้งเป็นพรรคการเมือง ลงพื้นที่ ให้การศึกษา ทำการจัดตั้งทางความคิด (ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ที่ทำงานการเมืองและเชื่อมั่นในระบอบประชาธิปไตยพึง กระทำ) ก็ขี้เกียจตามสันดานชนชั้นนำ สุดท้ายเลยต้องพึ่งอำนาจนอกระบบสร้าง shortcut ขึ้นมาเช่นนี้แล
จากกระทู้ “การเมืองใหม่” ของพันธมิตร นี่มันอะไรอ่ะคับ เห็นพูดกันจัง, เนื้อหาจริงๆ มันคืออะไรกันแน่ โดยคุณ อัคคี ดาราชาด
ผมเสริมนิดเดียวตรงตัวหนาแค่ว่า สันดานชนชั้นนำขี้เกียจ สันดานชนชั้นกลางสฤษฎกครับ
ขอจุดธูปเชิญ "ผู้เห็นด้วยกับแนวทางของพันธมิตรเพียงบางส่วนฯ" มาตอบหน่อยครับ ว่าเห็นด้วยไม่เห็นด้วยอย่างไร พักนี้หายไปหมดจริงๆ ผมเหงา อย่าให้ต้องระบุชื่อเลยเดี๋ยวจะหาว่าเหมารวม
คนแรก สงสั
คนแรก
สงสัยต้องเอาโฆษณาออกก่อนมั้ง ไม่งั้นขาประจำไม่อยากเข้า
หรือว่า...
หรือว่า... หมดช่วงโปรโมชั่น
ไม่รู้จะต
ไม่รู้จะตอบว่าอะไร มองคนละมุมจริงๆ บางมุมคุณก็เห็นแต่ไม่พูด
การเมืองเก่าคือการโกงทุจริตทุกระดับตั้งแต่อบต.ยันครม.
การเมืองใหม่คือไม่เอาแบบเก่า
ไปเจอมา
ไปเจอมา เหมือนกัน "ความพลั้งของปราชญ์เที่ยงคืน กับความโง่ของคนบาปแห่งแผ่นดิน (บทความที่คนไม่โง่ควรอ่าน)"
โดย รศ.ดร.ชวินทร์ ลีนะบรรจง รศ.ดร.สุวินัย ภรณวลัย 2 พฤศจิกายน 2551 20:01 น.
http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9510000130009
@jpad แล้วแบบ
@jpad
แล้วแบบใหม่มีอะไรรับประกันได้ว่าไม่โกงครับ?
"แล้วแบบให
"แล้วแบบใหม่มีอะไรรับประกันได้ว่าไม่โกงครับ?"
คำตอบนี้โดนใจจริงๆพับผ่า
ผมว่าไม่ม
ผมว่าไม่มีอะไรรับประกันได้หรอกครับว่า
แบบใหม่หรือแบบเก่าจะไม่โกง
ขนาดรวยแล้วยังโกง แถมโกงรูปแบบใหม่อีกต่างหาก
"แต่ถ้าโกงแล้วก็ด้องติดคุก(ถ้าไม่หนี)" ตัวอย่างก็มีให้เห็นแล้วหนิครับ
ผมว่านะเท่าที่อ่านมาในกระทู้น
ผมว่านะเท่าที่อ่านมาในกระทู้นี้ ผมชอบใจตรงบางท่านที่เขียนว่า "อะไรเป็นสิ่งประกันว่าไม่โกง"อันนี้ละครับที่ถูกใจจริงๆ เพราะไม่ว่าจะการแบบใหม่หรือแบบเก่าก็ไม่ได้มีอะไรที่จะสามารถรับประกันได้ว่าจะไม่โกง อย่างที่ทราบกันดีว่า "อำนาจนั้นไม่เข้าใครออกใคร" แม้แต่พวกที่ตอนแรกก็ถูกยกย่องในสังคมว่าเป็นคนดีมีคุณธรรมและความคิด แต่เมื่ออยู่ในอำนาจก็มักจะหลงลืมคุณธรรมในตัวเองก็เฉกเช่นเดียวกันกับชนชั้นรากหญ้าก็มีโอกาสเปลี่ยนแปลงคุณธรรมและความคิดได้เหมือนกัน แต่ทั้งนี้และทั้งนั้นก็ต้องขึ้นอยู่กับจิตใจที่ละอายต่อบาปของชนชั้นต่างๆว่า "ใครจะมีความละอายต่อบาปมากน้อยกว่ากัน" อันนี้ละที่จะเป็นสิ่งเตือนสติของชนชั้นนำดีๆหรือชนชั้นรากหญ้าให้ไม่คิดนอกลู่นอกทางของครรลองที่ดี